Root Admin Sorcery World โพสต์ 13 มีนาคม Root Admin แชร์ โพสต์ 13 มีนาคม | 苏 晓 阳 ✧ 日 ซู เสี่ยวหยาง • xiaoyang su /the morning sun./ วัน/เดือน/ปีเกิด : 19 โนวานอ อายุ : 23 ปีซอร์เซเรียน เพศสภาพ : หญิง เพศวิถี : หญิง ☼ รูปพรรณสัณฐาน สีผมตามกำเนิด : Midnight Brown สีตาตามกำเนิด : Brown ความสูง : 186 เซนติเมตร น้ำหนัก : 59 กิโลกรัม สีผิวตามกำเนิด : ขาวเหลือง ตำหนิที่เห็นได้ชัดเจน : - ลักษณะการแต่งตัว : ตั้งแต่ย้ายมาพำนักที่ซอร์เซราเธอชื่นชอบและมีความสุขกับการจับคู่เสื้อผ้าทั่ว ๆ ไปของพ่อมดแม่มดในซอร์เซรากับเครื่องแต่งกายของชาวบาลาดัตเป็นอย่างมาก การใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องการความคล่องตัวจึงมักจะเห็นเธอหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสวมกับกระโปรงผ้าไหมหรือผ้าแพรสีสันต่าง ๆ ปักลวดลายมาใส่คู่กันอยู่เป็นประจำ เธอไม่มีเครื่องประดับที่ชอบเป็นพิเศษแต่หากสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าเครื่องประดับที่เธอเลือกนั้นล้วนมีสีทองเข้ากับอันเดอร์โทนของผิวเธอทั้งสิ้น อื่น ๆ ตามที่ต้องการ : เส้นผมสีน้ำตาลเข้มเงางามถูกปล่อยให้ยาวสยายกลางแผ่นหลังเสมอตามธรรมเนียมของชาวบาลาดัต ☼ อุปนิสัย จิตใจดี อบอุ่นและใจกว้าง พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ภายนอกดูเป็นคนพูดน้อย ไม่แสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้าและน้ำเสียงมากนักทว่าเนื้อแท้เป็นเพียงคนพูดไม่เก่งก็เท่านั้น เดิมทีไม่ค่อยได้สนทนากับใคร คนรอบตัวเองก็ไม่มีคนรุ่นราวคราวเดียวกันที่พอจะสามารถพูดคุยด้วยได้ จึงเป็นการยากเสียหน่อยที่จะเริ่มต้นบทสนทนา แต่หากได้พูดคุยกันแล้วจะรับรู้ได้ว่าเธอเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังที่ดีทีเดียว ☼ ประวัติ เสี่ยวหยางเกิดและเติบโตขึ้นมาจากความรักของหานตงและหลินฮวา ผู้ให้กำเนิดและผู้มอบนาม เสี่ยวหยาง อันหมายถึง ดวงตะวันในยามเช้า ให้กับเธอ ทั้งสองเป็นพ่อมดแม่มดสืบเชื้อสายของชาวบาลาดัตมาอย่างเข้มข้น ประกอบอาชีพเปิด เหลาสุราซูเมิ่ง หรือโรงสุราขนาดใหญ่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารพร้อมสุราเลิศรสในหมู่ชาวบาลาดัตตลอดหลายทศวรรษ กระทั่งผู้เป็นพ่อที่ปิดบังอาการป่วยไว้ไม่ให้ภรรยาและบุตรีรับรู้ร่วมสองปีละทิ้งถิ่นธุลีแดงเสียชีวิตจากไปอย่างกะทันหัน หลินฮวาผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปไม่ทันได้เอ่ยคำร่ำลาจึงตกอยู่ในวังวนของความเศร้าโศก ไม่เป็นอันกินอันนอนจนสุขภาพย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็จากไปในเวลาไม่กี่เดือนหลังหานตงตาย เด็กสาวสูญเสียบุคคลที่เปรียบเสมือนโลกทั้งใบไปในวัยเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น เหวินจิ้ง คุณลุงหรือพี่ชายแท้ ๆ ของแม่จึงรับตัวเสี่ยวหยางไปดูแลนับแต่นั้นเป็นต้นมา เหวินจิ้งนั้นเป็นถึงเจ้าสำนักของ สำนักคุ้มกันภัยหรงเย่า อันเลื่องชื่อ ไม่มีงานใดที่สำนักคุ้มกันภัยหรงเย่าไม่สามารถทำให้สำเร็จลุล่วงจึงได้รับความไว้วางใจและถูกจ้างวานจากผู้จ้างวานทั้งแวรี่และชาวบาลาดัตอยู่บ่อยครั้งแม้จะแลกมาด้วยค่าตอบแทนแพงหูฉี่ก็ตาม อย่างไรก็ดี ในระยะแรกเสี่ยวหยางไม่ได้มีบทบาทอะไรในสำนักคุ้มกันภัยหรงเย่านัก เหวินจิ้งมักงานยุ่งเป็นประจำจึงให้อิสระในการเลือกกระทำสิ่งใดก็ได้ตามต้องการ หลานสาวเจ้าสำนักจึงใช้โอกาสนั้นร้องขอ เหยียนจวิ้น มือขวาของคุณลุงซึ่งขณะนั้นกำลังพักรักษาอาการบาดเจ็บจากการทำงานและรับหน้าที่ดูแลชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไปของเธอมาคอยฝึกสอนเวทมนตร์ของเผ่าบาลาดัตให้อยู่ทุกวันเช้าจรดเย็น ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีเศษที่เด็กสาวร่ำเรียนเวทมนตร์ ผู้มีศักดิ์เป็นถึงคุณลุงมิได้รับรู้เรื่องนี้แม้แต่น้อยเนื่องด้วยเธอไม่ได้เอ่ยปากบอก ส่วนครูฝึกจำเป็นก็ไม่ได้รายงานเรื่องนี้กับเจ้านาย ครั้นที่เธอกำลังฝึกฝนการบีบอัดพลังจากดวงอาทิตย์ให้อยู่ในรูปร่างของคันธนูและลูกศร เด็กสาววัยสิบห้าปี ณ ขณะนั้นยังไม่สามารถควมคุมพลังของตนได้ดีเท่าที่ควรจึงเผลอปล่อยลูกศรออกไปทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นทำเอาป่าไผ่ข้างบ้านราบเป็นหน้ากลอง เรื่องที่เธอแอบฝึกเวทมนตร์จึงล่วงรู้ไปจนถึงหูของเจ้าสำนักคุ้มกันภัยขึ้นมา เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทว่าหลังจากนั้นเธอรวมถึงเหยียนจวิ้นถูกเรียกตัวเข้าไปต่อว่าพร้อมกันเสียยกใหญ่ กระนั้น เจ้าสำนักคุ้มกันภัยมิได้เป็นคนใจจืดใจดำขนาดบังคับขู่เข็ญให้เสี่ยวหยางเลิกฝึกเวทมนตร์ ชายวัยกลางคนตัดสินใจให้หลานสาวหัวแก้วหัวแหวนเข้าร่วมการฝึกฝนกับจอมยุทธ์ฝึกหัดในสำนักเพื่อให้สามารถใช้พลังของเธอได้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น ในที่สุดเสี่ยวหยางหลานสาวเพียงคนเดียวของเหวินจิ้งก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักคุ้มกันภัยหรงเย่าตอนอายุได้สิบเจ็ดปีและร่วมออกเดินทางคุ้มกันสิ่งสำคัญที่ได้รับการว่าจ้างมาเช่นเดียวกับสมาชิกคนอื่น หลังเป็นสมาชิกสำนักคุ้มกันภัยหรงเย่าได้สองปี หญิงสาวต้องทำภารกิจคุ้มกันบุตรสาวสกุลซูเศรษฐีชาวจีนค้าผ้าไหมซึ่งต้องเดินทางไปค้าขายในดินแดนแถบตะวันตกเป็นระยะเวลาหนึ่ง เธอจึงได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นครั้งแรก ระหว่างนั้นเสี่ยวหยางได้ลองใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างผู้ไร้เวทมนตร์ดูบ้างซึ่งไม่แย่นักและต้องยอมรับว่าสนุกกว่าที่คิดมากทีเดียว อีกทั้งได้รับการต้อนรับขับสู้ดูแลจากสกุลซูเป็นอย่างดี ทว่าหญิงสาวชาวบาลาดัตมารู้เอาทีหลังว่าใบหน้าของเธอเกิดไปละม้ายคล้ายคลึงกับลูกสาวคนเล็กของสกุลซูซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์ ในวันสุดท้ายของการทำภารกิจเศรษฐีสกุลซูพร้อมบุตรสาวจึงเลี้ยงอาหารเธอและถามเธออย่างเจียมตัวว่าขอให้เธอใช้สกุลซูร่วมกันพวกเขาด้วยได้หรือไม่ เดิมทีเสี่ยวหยางไม่มีสกุลใช้เนื่องจากกลุ่มชนผู้วิเศษไม่ใช้ชื่อท้ายกันเสียเท่าไรแต่กระนั้นเธอไม่ได้ขัดความต้องการของคนทั้งสองที่ดูแลเธอเป็นอย่างดี เธอจึงใช้สกุลซูนับแต่นั้นเป็นต้นมาและแวะเวียนไปหาพวกเขาบ้างเมื่อมีโอกาส แต่แล้ววันหนึ่ง จดหมายจากผู้แทนแห่งบาลาดัตคนปัจจุบันอย่างจางฮุ่ยเจินถูกร่อนมาถึงผู้นำสูงสุดของชาวบาลาดัต เนื้อความภายในจดหมายระบุมาเพียงสั้น ๆ แต่ได้ใจความว่าจงคัดเลือกบุคคลผู้ที่มีความเหมาะสมและสามารถมาทำหน้าที่ผู้แทนของชาวบาลาดัตคนต่อไปแทนตัวเขาที่มีภารกิจพิเศษต้องไปทำ แน่นอนว่าภารกิจพิเศษที่ว่านั้นจะเป็นอะไรมีเพียงเจ้าของและผู้รับจดหมายฉบับนั้นเท่านั้นที่ล่วงรู้ ทางด้านผู้นำของบาลาดัตเองประสงค์ให้ลูกชายเพียงคนเดียวของตนไปทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ ทว่าชายคนนั้นถูกวางตัวไว้ให้เป็นผู้นำคนถัดไปต่อจากเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเหตุว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้สุขภาพของผู้นำคนปัจจุบันย่ำแย่ลงเต็มที ผู้นำเผ่าใคร่ครวญถึงเรื่องนี้อยู่นานแต่กลับยังไม่พบคำตอบ ประจวบเหมาะกับผู้นำแห่งบาลาดัตและบุตรชายพร้อมด้วยคณะเดินทางต้องออกเดินทางไปนอกเมืองใกล้กับเขตแวรี่จึงไม่ลังเลที่จะใช้บริการจากสำนักคุ้มกันภัยหรงเย่าซึ่งตัวเจ้าสำนักเองก็เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของผู้นำอีกด้วย งานจ้างวานครั้งนี้เสี่ยวหยางได้รับมอบหมายให้ปลอมตัวเป็นภรรยาของลูกชายหรือว่าที่ผู้นำของเผ่าคนต่อไปเพื่อคอยคุ้มกันบุคคลสำคัญจากระยะประชิดและสนับสนุนจอมยุทธ์คนอื่น ๆ ที่คุ้มกันอยู่รอบข้าง การเดินทางช่วงขาไปไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ดูสงบเงียบจนน่ากังวลใจมากกว่าเบาใจ และแล้วก็เป็นไปตามคาด คณะเดินทางถูกลอบโจมตีในระหว่างทางขากลับซึ่งการปะทะกันครั้งนี้ทำให้เสี่ยวหยางหลีกเลี่ยงที่จะใช้ศาสตร์ของตนเองไม่ได้ ผู้นำของบาลาดัตจึงได้เห็นฝีมือที่แท้จริงของหญิงสาวและมีความคิดที่จะส่งเธอไปเป็นผู้แทนจากบาลาดัตคนต่อไป ทันทีที่กลับมาถึงที่พำนักการประชุมเพื่อสรรหาผู้ที่เหมาะสมในการรับตำแหน่งจึงเริ่มต้นและผลออกมาว่าเสี่ยวหยางในวัยยี่สิบเอ็ดปีได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่ผู้แทนจากบาลาดัตด้วยเหตุผลหลากหลายประการอันได้แก่ เป็นผู้มีสายเลือดบาลาดัตไหลเวียนอยู่ทั่วร่างและมีพื้นฐานทางครอบครัวที่ดีเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป สำคัญที่สุดคือมีความสามารถเปี่ยมล้นเป็นที่ประจักษ์ แม้เธอจะประหลาดใจอยู่บ้างที่ได้รับเลือกแต่ก็มิได้ปฏิเสธอันใดและออกเดินทางจากบ้านเกิดมาเพื่อรับตำแหน่งผู้แทนจากบาลาดัตคนต่อไป ☼ คุณเป็นพ่อมดแม่มดสายใด : ไม่เจาะจง ☼ สิ่งที่ชอบ แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า ผลส้ม การแกะเปลือกส้มเป็นรูปดอกไม้ การนั่งอยู่เงียบ ๆ ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ต้องทำสิ่งใดเลย ☼ สิ่งไม่ชอบ กาแฟ การถูกบังคับ การต่อสู้ ☼ อื่นๆ ที่อยากระบุเพิ่มเติม : เป็นพวกชอบเล่นมุกตลกฝืด ๆ ซึ่งเจ้าตัวคิดว่ามันขำมากแต่คนอื่นที่ได้ยินกลับไม่คิดเช่นนั้น เจ้าของศาสตร์ทอแสงตะวัน 日 ลิงก์ไปยังความคิดเห็น
กระทู้แนะนำ