Root Admin Sorcery World โพสต์ 13 มีนาคม Root Admin แชร์ โพสต์ 13 มีนาคม ชื่อเวทมนตร์ของคุณ : Alena Crawford Declair ออกเสียงว่า : เอ เล น่า ครอว์ ฟอร์ด เดอ แคลร์ วัน/เดือน/ปีเกิด : 01/08/2001 อายุ : 17 ปี ณ วันที่บันทึก เพศสภาพ : หญิง เพศวิถี : เลสเบี้ยน - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - รูปพรรณสัณฐาน สีผมตามกำเนิด : ม่วงเข้ม แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสีเข้มหยักศกธรรมชาติ สีตาตามกำเนิด : ม่วงใสแบบลูกแก้ว ตำหนิที่เห็นได้ชัดเจน : ไฝที่ใต้ตาขวา ความสูงและน้ำหนัก : 170, 58 โดยประมาณ ช่วงขายาวทำให้ดูสูงและโปร่ง แต่บุคลิกการเดินห่อไหล่ทำให้ความสูงลดลงโดยอัตโนมัติ หุ่นค่อนไปทางผอมจัดเนื่องจากเจ้าตัวไม่ชอบรักษาสุขภาพสักเท่าไร ของกินที่โปรดก็มีแต่ของหวานและชาเท่านั้น สีผิวตามกำเนิด : ผิวซีดอย่างคนไม่ชอบต้องแดด ลักษณะการแต่งตัว : เสื้อแขนยาวตัวหนาๆ มีฮูดด้วยจะดีที่สุด เวลาออกไปข้างนอกมักจะสวมทับด้วยโค้ทตัวยาว มีอยู่แค่สองสีใส่ทับชุดปกติ คู่กับกางเกงขายาวสีเข้ม และหมวกในบางโอกาส ไม่มีภาพลักษณ์ให้ได้เห็นหลากหลายแบบนักเพราะส่วนใหญ่จะหมกตัวอยู่มุมใดมุมหนึ่งของบ้าน หรืออาจเจอบ่อยได้ที่สถาบันเอลฟ์ประจำบ้านในชุดเครื่องแบบนักเรียนออสทารา อื่นๆ ตามที่ต้องการ : ชอบแต่งตัวเหมือนทุกฤดูเป็นฤดูฝน ไม่โปรดฤดูหนาวและร้อน แต่โปรดฤดูใบไม้ผลิ อุปนิสัย โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนร่าเริง เข้าหาผู้คนง่าย ค่อนไปทางดีดและกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา แต่หากถึงเวลาที่พลังงานต่ำแล้วทุกอย่างจะตีกลับเป็นตรงกันข้ามหมด จากที่ร่าเริงก็จะพูดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด อุปนิสัยชอบเข้าหาผู้คนก็จะเริ่มเก็บตัวเหมือนจำศีล มักเกิดขึ้นหลังปฏิบัติภารกิจหรือทำงานชิ้นใหญ่มา หรือในฤดูหนาว เอเลน่าเป็นคนที่ซ่อนตัวเก่งโดยไม่ได้เจตนา หากไม่ได้เจอเธอที่สถาบันเอลฟ์ประจำบ้านแล้ว เจ้าตัวก็ไม่ได้ไปปรากฏตัวในส่วนไหนของแผนที่โลกเวทมนตร์ เธอไม่ได้กลัวคนจำนวนมาก แต่เธอไม่ชอบสถานที่ที่แออัดซักเท่าไร ส่วนใหญ่แล้วเหตุผลที่จะทำให้ออกมาจากบ้านได้ก็มักจะเป็นน้องสาว เรื่องของกิน งานเทศกาล และฤดูฝน / เป็นคนที่มีนิสัยชอบดูแลคนอื่น ไม่ว่าใครที่น่าเอ็นดูก็จะเผลอทำตัวเป็นพี่เขาไปเสียหมด (แสดงออกบ่อยมากกับน้องสาวยามยังอาศัยอยู่กับตระกูลมาการอค) ลึกๆแล้วเป็นคนติดสกินชิปและขี้อ้อนมากโดยเฉพาะเวลาแบตอ่อน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และคนที่อยู่ด้วย ประวัติตัวละคร เดิมใช้นามสกุล ครอว์ฟอร์ด, Crawford (ปัจจุบันยังคงไว้ในตำแหน่งชื่อกลาง แต่ไม่ปรากฏในเอกสารและบันทึก) เป็นนามสกุลที่สืบจากตระกูลนักเดินเรือทางตะวันตก ตั้งแต่ยุคสมัยแห่งการสำรวจของยุโรป ไม่มีหลักฐานบันทึกแน่ชัดว่าพวกเขาได้ตั้งรกรากอยู่ที่ใดในปัจจุบัน ด้วยความเป็นนักเดินเรือในสายเลือดนั้นทำให้คนตระกูลนี้รักการผจญภัยและปรารถนาที่จะออกทะเลไปยังดินแดนที่แตกต่างในทุกรุ่นอายุ ดังนั้นจึงไม่แปลกหากคุณจะพบใครสักคนที่ใช้นามสกุลครอว์ฟอร์ด - หรืออาจคงไว้ในตำแหน่งชื่อกลางอย่างเอเลน่า ตามสถานที่อย่างท่าเรือในเมืองเล็ก ๆ กลางโพ้นทะเล หรืออาศัยอยู่ในสักหมู่บ้านในหมู่เกาะกลางทะเล แต่จุดเริ่มต้นของเอเลน่า ครอว์ฟอร์ด นั้นแตกต่างจากบุตรธิดาของครอว์ฟอร์ดในช่วงอายุเดียวกัน แม้จะยังมีการติดต่อกับครอบครัวใหญ่ รวมถึงต้นตระกูลที่ทำหน้าที่รักษาสมบัติประจำตระกูลไว้ แต่ไม่เคยมีครอว์ฟอร์ดครอบครัวใดอาศัยในถิ่นที่อยู่ที่แตกต่างมากเท่าครอบครัวของเธอ นอกจากที่เธอไม่ได้เกิดในสถานที่ติดทะเลแล้ว ยังไม่ใช่แม้กระทั่งถิ่นอาศัยของผู้วิเศษ - ห่างไกลออกไปในถิ่นอาศัยของแวรี่ เธอได้รับสายเลือดพ่อมดแม่มดมาจากฝั่งบิดา และทางมารดาเป็นแวรี่อย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เธอมีสายเลือดผสม ดังนั้น ต่อให้เป็นที่ยอมรับของต้นตระกูล แต่ในทางปฏิบัติแล้ว แทบไม่มีครอว์ฟอร์ดครอบครัวไหนยืนยันสถานภาพของพวกเขาเทียบเท่าในฐานะสายเลือดตระกูลเดียวกัน และอาจเป็นเรื่องวุ่นวายในการทักท้วงสิทธิ์ผู้ดูแลสมบัติประจำตระกูลที่เอเลน่ามีสิทธิ์ในการรับการทดสอบตอนอายุสิบแปดปี เทียบเชิญฉบับนี้จะปรากฏต่อหน้าสายเลือดตระกูลครอว์ฟอร์ดเมื่อถึงเวลา และพวกเขาจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร ความน่าพิศวงคือแม้จะถูกกีดกันเพราะสายเลือดที่มีตำหนิในสายตาญาติใกล้ชิดซึ่งเป็นแวรี่ เอเลน่ากลับไม่เคยรับรู้เลยว่าเหตุใดความสามารถพิเศษนี้จึงกลับกลายเป็นหลังมือไปเสียได้ กระทั่งหน้าของพ่อตนเองยังไม่เคยได้เจอะเจอ และยิ่งเอเลน่าเติบโตขึ้น พลังเวทที่มากเกินไปก่อให้เกิดเหตุอันมิควรไม่น้อยจนมารดาต้องพาเธอออกมาอยู่แยกเพียงลำพังสองคนที่ชานเมือง ห่างจากเครือญาติแวรี่แต่กลับเข้าใกล้กับชนผู้วิเศษที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในป่าใหญ่ทางทิศใต้ของเมือง สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้วิเศษมากกว่านั้นช่วยให้เธอควบคุมความเสถียรของพลังได้ดี... ด้วยตนเอง จนกระทั่งเอเลน่าอายุครบสิบสามปี อันเป็นช่วงเวลาที่สายเลือดตระกูลครอว์ฟอร์ดจะต้องส่งบุตรธิดาไปร่วมการเดินทะเลตามประเพณี ทีแรกนั้นคนติดบ้านอย่างเอเลน่าไม่เคยกังวล เมื่อย้ายออกมาอยู่กับแม่สองคนแล้วยังออกห่างชุมชนแวรี่มาไกล เด็กน้อยก็คิดไปเองว่ามีความสุขดีและคงไม่มีปัญหาใด แต่กลับกลายเป็นไม่ว่าด้วยวิธีใด มารดาเลือกที่จะตกลงปลงใจกับผู้อาวุโสครอวฟอร์ดว่าจะส่งตัวเธอออกเดินทะเลในครั้งนี้ด้วย เอเลน่าไม่ได้มีทางเลือกนัก เพราะการตกลงอ้อนวอนครั้งนั้นของแม่ที่ไม่เคยบอกเหตุผล แลกมาด้วยการที่นางจะต้องกลับไปประจำหน้าที่เขียนแผนที่ของตระกูล ซึ่งหมายความว่าเธอไม่สามารถอยู่ ณ ชานเมืองนี้ได้อีกต่อไปเนื่องจากไม่มีผู้ปกครอง ไม่มีบ้าน และเรือเดินสมุทรจึงเป็นเพียงที่ซุกหัวนอนแหล่งเดียวที่บังคับให้ต้องเลือก เรือประจำตระกูลได้แล่นผ่านแผ่นดินมากมาย ประเทศ เมือง หมู่เกาะ ท่าเรือ สมาชิกบางคนได้เลือกจากคณะไปในช่วงสัปดาห์ เดือน หรือปี ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาพอใจที่จะสำรวจดินแดนใดที่ค้นพบ สำหรับเอเลน่า เธอใ้ช้เวลาอยู่บนเรือหนึ่งปีกับอีกสามเดือน เธอเป็นครอว์ฟอร์ดเพียงคนเดียวที่เดินทางมาถึงโคเวนเนีย และอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดี แม้จะรักการผจญภัยอย่างที่สายเลือดได้สอนสั่งไว้ เอเลน่าก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวังว่าตนเองจะได้นั่งเรือกลับไปที่ถิ่นกำเนิดของตนสักครั้งเมื่อเวลานั้นจะพึงมาถึง เอเลน่าได้รับมิตรภาพที่ดีจาก กิโมล่า เบรค เพื่อนคนแรกของเธอในดินแดนไกลโพ้น ซึ่งนำมาสู่การก่อตั้งตระกูลร่วมกันในภายหลังกับ ภารูด้า มาการอค ต้นตระกูลเก่า นั่นเป็นเหตุผลที่ในปัจจุบันเธอเปลี่ยนมาใช้นามสกุลมาการอค โดยคงครอว์ฟอร์ดไว้เป็นเพียงชื่อกลางในนามของตระกูลดั้งเดิมเท่านั้น เรื่องราวของเด็กสาวเจ้าของสายเลือดผสมของนักเดินเรือไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านั้น หลังจากชีวิตที่ไม่มั่นคงพัดเพให้นามสกุลที่ห้อยท้ายนั้นเปลี่ยนไปตามตระกูลที่เข้าร่วมด้วยจากความสัมพันธ์อันดีในครั้งหนึ่ง กลับมาพลิกโผกลายเป็นการชักนำตนเองในวัย 18 ปีสู่อดีตที่ไม่เคยได้รับคำตอบ สาสน์แห่งครอว์ฟอร์ดได้ปรากฏแก่ผู้รับเลือกในรูปแบบของนักพเนจรผู้ต้องมนตราที่เดินทางมามอบเทียบเชิญอันไร้เงื่อนไข (unconditional invitation) ทำให้เอเลน่าได้มีโอกาสเดินเรือกลับไปยังถิ่นกำเนิดของตนอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว เธอได้รู้ว่าแท้จริง เลือดผู้วิเศษในครึ่งหนึ่งของตนไม่ได้อยู่ห่างไกลทว่าใกล้เสียจนน่ากลัว เอเลน่ากลับมาเพื่อค้นหาคำตอบเพียงหนึ่ง แต่กลับได้สิ่งที่มากกว่านั้น รวมถึงสิทธิ์ในการดูแลสมบัติตระกูลที่ไม่พึงปรารถนาทว่าหาได้มีใครกล้าขัดแย้งไม่เมื่อพบกับเอเลน่า ครอว์ฟอร์ด ที่เติบโตขึ้นและกลายเป็นผู้วิเศษเต็มตัว ไม่ว่าจะด้วยตั้งใจหรือไม่ เธอเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน รวมถึงข้อพิสูจน์ที่ว่าเธอกับเจ้าของสายเลือดแห่งชนมาจิสเตอร์นั้นไม่มีทางเดินเคียงข้างกันได้ จากสายเลือดแห่งชนมาจิสเตอร์ของผู้เป็นบิดาที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอดีตทหารเวเดนที่ชั่วร้ายและหมายจะฉกฉวยอำนาจจากผู้ด้อยกว่าเพื่อเสริมกำลังเวทมนตร์ให้กับตนเองอันเป็นต้นเหตุให้ถูกมองในด้านลบตั้งแต่ยังเด็ก เรื่องดังกล่าวผู้ถ่ายทอดไม่ใช่มารดาของเธอโดยตรง แต่เป็นตัวแทนดรายแอดจากป่าในเขตอาศัยในยามเด็ก เมื่อได้มารู้ความจริงแล้วกลับไม่รู้สึกโกรธ เพียงแต่เต็มไปด้วยความเศร้าใจในโชคชะตาของผู้วิเศษครึ่งดรายแอดผู้พี่ที่ตัดสินใจสละอายุไขและพลังของตนเองเพื่อยื้อชีวิตให้กับผู้คนในเมือง รวมถึงตัวพวกเธอเองที่เป็นบุตรธิดาร่วมบิดาเดียวกันซึ่งใกล้จะถูกบูชายัญโดยพ่อของตัวเอง แน่นอนว่าแม่ของเธอรู้ จึงเลือกที่จะส่งเธอออกทะเลแกมบังคับโดยไร้คำอธิบายใด ส่วนพี่สาวร่วมบิดาของเธอที่กลายเป็นผู้เสียสละต่อชีวิตรอดให้กับน้อง ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็น ซาบริน่า เดอแคลร์ ซึ่งการพบเจอกันที่โคเวนเนียในฐานะผู้อ่อนเยาว์กว่ากลับพลิกผันกลายเป็นพี่สาวคนโตของสายเลือดแห่งมาจิสเตอร์ สิ่งที่รู้มาทำให้นิ่งนอนใจไม่ได้แม้สักวินาที เอเลน่าที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนในฐานะครอว์ฟอร์ดเสร็จสมบูรณ์แล้วจึงเร่งหาทางกลับมาที่โคเวนเนียให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกินไปที่จะเคียงข้างกับพี่สาวในการเตรียมรับมือกับความเลวร้ายที่กำลังตั้งเค้าเข้ามาทุกที คุณเป็นพ่อมดแม่มดสายใด : ไม่เคยพิจารณา สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ : ชอบฤดูฝน ของหวานและชา ไม่ชอบฤดูหนาว ฤดูร้อนและอาหารมื้อหนัก อื่นๆ ที่อยากระบุเพิ่มเติม : - ลิงก์ไปยังความคิดเห็น
กระทู้แนะนำ