Root Admin Sorcery World โพสต์ 27 มีนาคม Root Admin แชร์ โพสต์ 27 มีนาคม Just let your hair down Let's paint the whole town - 家 伴 侣 - ข้อมูลทั่วไป ชื่อเวทมนตร์ของคุณ Jia Banlu ออกเสียงว่า เจี่ย ป่านหลี่ วัน/เดือน/ปีเกิด - อายุ 1 August XX ไม่ปรากฏอายุแต่รูปลักษณ์ภายนอกคล้าย 27-30 มักจะตอบว่าตัวเองอายุ 31 แต่จริงๆ แล้วมากกว่านั้นหากนับจากรอบปีเทียบพ่อมดแม่มดทั่วไปจริง เพศสภาพ ชาย - male เพศวิถี pansexual รูปพรรณสัณฐาน สีผมตามกำเนิด ดาร์กช็อกโกแลตไหม้ประกายน้ำตาลเมื่อต้องแสง สีตาตามกำเนิด เทาเข้มคล้ายมวลควัน ในบางคราวก็คล้ายกับเป็นเมฆครึ้มฝนโดยเฉพาะในยามที่โกรธ ความสูง 189 cm. สูงโปร่ง ยืนเต็มความสูงเสมอ หลังตรง น้ำหนัก 78 kg. ตัวไม่หนาแต่มีกล้ามเนื้อ บ่ากว้าง สีผิวตามกำเนิด คล้ายทรายขาว ออกไปทางเข้มแต่กระจ่างใส ตำหนิที่เห็นได้ชัดเจน หางคิ้วที่มีรอยบั่นเล็กๆ ข้างซ้าย, รอยสักหลังใบหูข้างขวาเป็นภาษาจีนแถวตรงยาวตั้งแต่ขอบหูด้านบนลงไปจนถึงช่วงต้นคอ มักจะโผล่พ้นเสื้อเสมอ ลักษณะการแต่งตัว เนี้ยบอยู่เสมอแม้เจ้าตัวจะไม่เรียบร้อยนักซ้ำยังใจร้อน เสื้อทุกตัวเป็นผ้าเนื้อดีแสดงฐานะ สะอาดสะอ้าน ดูเป็นคุณชาย ไม่เคยปล่อยเชิร์ตตัวไหนยับ ไม่มีเสื้อตัวโปรดเพียงตัวเดียวแต่เปลี่ยนไปเรื่อยตามช่วง มักจะแต่งตัวให้เข้ากับสภาพอากาศและฤดูกาลอยู่เสมอ เป็นคนที่ใส่ใจการแต่งตัวกับภาพลักษณ์มากกว่าจะใส่ใจคนรอบตัวเสียอีก อื่นๆ ตามที่ต้องการ ไม่ชอบให้มีคนมายุ่งกับการแต่งตัวยกเว้นแต่จะเป็นคนขอเอง บางครั้งก็ใช้เรื่องนี้เป็นหัวข้อชวนคุยเวลาเจอคนที่ถูกใจ รอยสักของเขาไม่เคยบอกความหมายให้ใครฟัง เขาไม่ชอบให้ใครก็ตามแตะต้องมัน ช่วงอกซ้ายมีรอยสักอีกจุด เป็นลักษณะคล้ายรากไม้ ดูออกได้ยากว่าเป็นภาพอะไร รอยบั่นที่คิ้วไม่เคยรักษาให้ดี ถูกปล่อยให้เป็นแผลอย่างนั้นทั้งที่ไม่ชอบเห็นแผลบนหน้าตัวเอง อุปนิสัย ไม่ใช่คนนิสัยดีโดยธรรมชาติ ชอบเอาชนะ เอาแต่ใจ ปากร้าย ช่างหาเรื่อง ฉลาดในเรื่องที่ใช้ตรรกะแต่มักจะพลาดในเรื่องการควบคุมอารมณ์ รวมไปถึงการแสดงออกที่โกหกได้ดี แต่ไม่เคยพูดจริงแล้วใครเชื่อเลยสนิทใจ เป็นคนเก่งที่ไม่มีคนอยากนับนักว่าเก่งเพราะข้อเสียหักลบเสียจนหมดเกลี้ยง ค่อนข้างเห็นแก่ตัว เอาตัวเองไว้ลำดับแรกเสมอ ขี้รำคาญและขี้เบื่อ แต่ตัวเองก็กลัวการไม่ถูกรัก บางครั้งก็ดูใส่ใจแต่บางครั้งก็ดูเหมือนไม่คิดอะไร อารมณ์แปรปรวน เดายากยิ่งกว่าพายุเขตร้อน ไม่ใช่คนที่จะคาดเดาพฤติกรรมได้เว้นเสียแต่คุณเป็นอริของเขา เขาจะเป็นตัวเองที่สุดก็ต่อหน้าคนที่เกลียด หรือคนที่เกลียดเขาก็เท่านั้น แต่กับคนที่รักมันจะยากเสมอ เพราะเขาไม่อยากให้ใครคนนั้นเห็นด้านไม่ดีของตัวเอง ประวัติ คุณชายคนโตตระกูลเจี่ยอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ใช่แค่คำกล่าวเชิงลบที่มีต่อเจี่ยป่านหลี่ แต่ยังเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าป่านหลี่มักจะเอาชนะในสิ่งที่ตัวเองมุ่งหมายได้สำเร็จเสมอ ความเก่งทั้งในด้านการคิด การวางแผน ไปจนถึงความสามารถทางเวทมนตร์ไม่เคยถูกกังขา แต่หากไม่เคยได้รับการยอมรับเพราะนิสัยเสียส่วนตัวเข้าขั้นแย่จนเกินรับไหว เป็นไปได้ไม่รู้จักกันคงจะดีกว่า ใครสักคนเคยพูดกับเขาเช่นนั้นตั้งแต่ยังไม่ครบสิบห้าปีดี ตระกูลเจี่ยย้ายถิ่นฐานมาจากบาลาดัตสู่แนวเขาแห่งสเปนตั้งแต่หลายพันปีก่อน แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็นับได้ว่าเป็นส่วนใหญ่ หลงเหลือไว้เพียงสายตระกูลรองที่ถิ่นต้นกำเนิด ในขณะที่ที่สเปน พวกเขามีสัญชาติที่แตกต่างทว่าอยู่ร่วมกันได้ด้วยกำลัง ประวัติโชกโชนของตระกูลไม่ได้เต็มไปด้วยสีขาวไม่ได้ต่างอะไรกับถิ่นเก่า และปฏิเสธไม่ได้ว่าต่อให้ผู้นำตระกูลรุ่นหลังจะพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น ผู้คนก็ยังหวาดกลัวมากกว่าให้ความเคารพ ในหมู่ผู้วิเศษละแวกนั้นไม่มีใครอยากยุ่งกับตระกูลเจี่ยและพรรคพวกหมาป่าในการปกครองนัก ทุกรุ่นของตระกูลต่างก็เต็มไปด้วยครึ่งหมาป่า ไม่เคยมีการนิยามว่ามันคือคำสาปหรือคำอวยพรจากพระเจ้า ทว่าพวกเขาก็ใช้มันได้ดี ดีจนเกินควบคุมในบางคราว แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นที่ชอบของหมาป่าเจ้าถิ่นในละแวกนั้นเช่นเดียวกัน ดีหน่อยที่ถิ่นอาศัยนั้นอยู่ห่างออกมา แต่ไม่ได้ห่างเกินจะเห็นกันและกันในระยะที่ประสาทสัมผัสไปถึง ทั่วทั้งสารทิศ ทั้งนอกเขตแดนและในเขตแดนต่างก็รู้ว่าตระกูลเจี่ยกับตระกูลแห่งเทือกเขากัลเดโรนาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนั้นไม่กินเส้นกันอย่างอะไรดี ราวกับถูกกำหนดไว้ว่าผู้นำตระกูลรุ่นใดก็จะต้องเขม่นกันให้ได้ทุกครั้ง ป่านหลี่ เจี่ย เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนตามใจ ทั้งในฐานะลูกคนโตของตระกูลเจี่ยสาขาหลัก และในฐานะของอัจฉริยะที่หาใครเทียบไม่ได้ อย่างน้อยก็สิบรุ่นขึ้นไปไม่เคยมีใครผ่านการทดสอบในพิธีกรรมของเผ่าได้ดีเท่าเขามาก่อน แม้กระทั่งผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนานเองก็พูดเช่นนั้น แต่เพราะความทะนงตัวของป่านหลี่เอง ครอบครัวของเขาจึงนึกอยากดัดพฤติกรรมแข็งเป็นไม้ให้อ่อนโยนลงบ้าง โดยเฉพาะ ซิงเหอ เจี่ย พ่อของป่านหลี่ที่นิสัยตรงข้ามกับลูกอย่างคนละขั้วเสียจนถูกทักเอาบ่อยๆ ว่าเหตุใดจึงต่างกันได้ถึงเพียงนี้ ความรู้ตนเองว่าสำคัญทำให้ป่านหลี่ประมาทว่าจะไม่มีวันถูกขับไสออกจากถิ่นกำเนิด เพราะในช่วงตอนเด็กเองไกลสุดที่ได้ไปคือการได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่บาลาดัต แต่ก็เพียงไม่เกินสามเดือนซ้ำยังเป็นการพักอาศัยอยู่อย่างสุขสบายกับญาติอีกต่างหาก ที่ป่านหลี่พลาดพลั้งไม่น้อยกว่าสิบครั้ง บางครั้งการล่ามนุษย์ก็เป็นงานอดิเรกที่ไม่ควรถูกยอมรับ หาได้มีใครห้าม จนกระทั่งวันหนึ่งเรื่องไปถึงหูของซิงเหอ สิ่งที่รับไม่ได้มากที่สุดคงจะเป็นความพลาดพลั้งที่พาลให้ตระกูลต้องเสียหน้าต่อตระกูลคู่อริ ป่านหลี่ถูกกักบริเวณ มันเริ่มจากตรงนั้น เพราะเขาไม่หยุดแม้จะถูกทำโทษ การหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ป่านหลี่ตกที่นั่งลำบาก และคำขาดของพ่อก็ประกาศขึ้นในปีที่สอง ‘แกไม่ต้องกลับมาที่นี่จนกว่าจะสำนึก’ ป่านหลี่ไม่ฟัง ไม่ใช่ธุระที่ต้องฟังคำสั่งของพ่อ ทว่านั่นก็เพราะเขาคาดไม่ถึงว่าพ่อจะแหกกฎเหล็กของตระกูลเพียงเพราะจำเป็นต้องบังคับให้เขาเชื่อฟัง ท้ายที่สุดแล้วคุณชายตระกูลเจี่ยจึงไม่มีทางเลือกใดเมื่อถูกผู้เป็นบิดาขับไส เขาออกเดินทางจากถิ่นกำเนิดมาถึงที่โลกเวทมนตร์ตามคำสั่ง โดยไม่รู้ว่าอะไรก็ตามที่รออยู่ข้างหน้าในสถานที่ใหม่ที่จำต้องมาอาศัยอยู่จนกว่าจะได้รับการลดโทษนั้นจะเป็นอย่างไร คุณเป็นพ่อมดแม่มดสายใด ดำ สิ่งที่ชอบ วันอากาศดีและฤดูร้อน กีฬา ปัญหายากๆ ที่แก้ได้คนเดียว ไม้ประดับที่ไร้ดอก เนื้อ เมนูปรุงไม่สุก การถูกตามใจ คนสวย กลิ่นหอม สิ่งที่ไม่ชอบ วันฝนตกหรือฤดูหนาว แมว ปัญหาที่คนอื่นแก้ได้ก่อน เกสรดอกไม้ เพราะเขาแพ้ ของหวาน การโดนขัดใจ เด็ก กลิ่นฉุน อื่นๆ ที่อยากระบุเพิ่มเติม รู้จักกับ ฮาซิเอล เปเรซ แต่ไม่ใช่ในทางเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของ เซเวียร์ เดอแคลร์ เป็นความสัมพันธ์ประหลาด ช่วงสามเดือนที่ไปอยู่บาลาดัตก่อนอายุครบสิบห้าปีมีรักแรกชื่อหลินหย่า ไม่เคยเจอเธออีกเลยหลังจากกลับมาอยู่ที่สเปน แถมยังไม่เคยได้รับจดหมายตอบกลับด้วย กว่าจะไปหาได้ก็ไม่เจอเธอคนนั้นแล้ว ลิงก์ไปยังความคิดเห็น
กระทู้แนะนำ